บทที่ 4 ตอนที่ 4
วาดจันทร์เผลอหัวเราะออกมา และรอยยิ้มหวาน ๆ ที่เป็นธรรมชาติของหล่อนก็ทำให้คามิเอลที่กำลังจ้องมองอยู่นั้นตะลึงตะลานไปชั่วขณะ ทั้ง ๆ ที่พยายามบอกกับตัวเองว่าวาดจันทร์ไม่ได้มีอะไรดีไปกว่าผู้หญิงหิวเงินเลยแม้แต่นิดเดียว แต่กระนั้น... เขาก็อดที่จะคิดถึงหล่อนไม่ได้ รสจูบจากกลีบปากนุ่มที่หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งป่าของหล่อนมันติดตรึงอยู่ในความทรงจำของเขาไม่เสื่อมคลาย อยากจะลืม อยากจะลบไม่ออกไปจากสมอง แต่ก็ทำไม่เคยสำเร็จเลยสักที เพราะอย่างนี้นี่ไง เขาถึงต้องดั้นด้นมาซื้อเนกไทถึงห้างสรรพสินค้าที่วาดจันทร์ทำงานอยู่ ทั้ง ๆ ที่ภายในห้องเสื้อผ้าของเขามีเนกไทเกือบ ๆ หนึ่งพันเส้นได้มั้ง นี่เขาต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ ๆ ใช่... ต้องบ้าไปแล้วจริง ๆ นั่นแหละ
“เวลาเธอยิ้ม... เหมือนโลกทั้งใบยิ้มไปด้วย”
คำพูดของเขาทำให้คนที่กำลังหัวเราะอยู่รู้สึกตัว หล่อนมองเขานิ่ง มองลึกเข้าไปในดวงตาคมกริบหวานฉ่ำของเขาอย่างเผลอตัวเผลอใจ
“คุณ... หมายถึง...”
คามิเอลระบายยิ้มบาง ๆ ก่อนจะก้มหน้าลงไปกระซิบที่ข้างหูของคู่สนทนา “ตอนนี้ฉันเหลือเวลาอีกแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้นนะสาวน้อย ช่วยเลือกเนกไทให้ฉันที”
วาดจันทร์ยืนตัวชาวาบ หน้าแดงปลั่งไม่ผิดจากผลตำลึงสุก หล่อนเบิกตากว้างมองเขา และความขัดเขินทำให้หล่อนต้องก้าวถอยหลังหนี
“เอ่อ... ฉันจะรีบเลือกให้ค่ะ”
แล้ววาดจันทร์ก็ก้มหน้ามองบรรดาเนกไทในตู้โชว์อยู่สองสามอึดใจ ก่อนที่มือขาวสะอาดจะเอื้อมเข้าไปหยิบเนกไทสีน้ำเงินเรียบ ๆ แต่ดูหรูหราน่ามองออกมา
“เส้นนี้ชอบไหมคะ มันเข้ากับเสื้อเชิ้ตของคุณมาก”
“ก็สวยดี” คามิเอลตอบ แต่สายตาไม่ละไปจากดวงหน้างามแม้แต่วินาทีเดียว
วาดจันทร์หลบตา ก่อนจะเอื้อมไปหยิบเนกไทอีกเส้นขึ้นมา “หรือว่าคุณจะชอบเส้นนี้คะ สีดำ เหมาะกับบุคลิกของคุณดี”
“ทำไมเธอถึงคิดว่าสีดำเหมาะกับบุคลิกของฉันล่ะ”
ดวงตาคมกริบหรี่แคบจ้องหน้าหล่อนอย่างคาดคั้น ทำไมนะ ทำไมหล่อนถึงได้ใจสั่นสะท้านทุกครั้งที่สบสายตาของผู้ชายหล่อระเบิดคนนี้ ทำไมจะต้องหวั่นไหวมาก ๆ แบบนี้ด้วย ท่องเอาไว้สิ ท่องเอาไว้ว่าคามิเอล การ์รัสโซ่คือแผ่นฟ้า ในขณะที่หล่อนคือผืนดินที่แผ่นฟ้าสูงส่งไม่มีทางลดสายตามองต่ำลงมาหา ไม่ว่าจะนานสักแค่ไหนก็ตาม วาดจันทร์บอกตัวเองอย่างขมขื่น
“คือ...”
“ทำไม...”
คำถามคาดคั้นของเขาดังขึ้นพร้อม ๆ กับการที่เขาสาวเท้าเข้ามาหา หล่อนยืนนิ่ง ตัวเป็นหินขยับเขยื้อนไม่ได้ ทำได้แค่เพียงมองเขาด้วยสายตาตื่นตระหนกเท่านั้น
“บอกมาสิว่าทำไมถึงคิดว่าเหมาะกับสีดำ”
เมื่อไม่มีทางเลือกใดอีก จำต้องพูดตะกุกตะกักออกไป “คือว่า... คือ... คุณลึกลับ อ่านไม่ออก เหมือน ๆ กับสีดำน่ะค่ะ ฉันหมายถึงแบบนี้”
คามิเอลไม่ได้ยิ้มอีกแล้ว เมื่อเขาตวัดสายตาจ้องหน้าหล่อนอีกครั้ง “แต่สีดำอย่างฉัน ก็ยังถูกนังแพศยาบางคนล้วงคอเอาได้อย่างง่ายดาย”
หัวใจของวาดจันทร์ตกลงไปถึงตาตุ่มทันทีกับสิ่งที่ได้ยิน หรือว่าคามิเอลจะจดจำหล่อน หญิงสาวหน้าซีดเผือด ขยับเท้าจะก้าวถอยหลังหนี แต่ก็เกิดสะดุดเข้ากับขอบตู้โชว์ด้านหลังทำให้หล่อนเซจะล้ม แต่มือใหญ่ที่ร้อนผ่าวของคนตัวโตก็ตวัดคว้าเอวคอดของหล่อนเอาไว้ได้ทันท่วงที
“ระวังหน่อยสิสาวน้อย”
“ขอบ... ขอบคุณค่ะ”
วาดจันทร์พูดเสียงตะกุกตะกัก ก่อนจะขืนตัวออกจากอ้อมแขนกำยำ ซึ่งคามิเอลก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หญิงสาวถอนใจอย่างโล่งอก
“เอ่อ งั้นตกลงเป็นเนกไทสีน้ำเงินก็แล้วกันนะคะ นี่คะ”
หญิงสาวรีบยัดเนกไทที่ตัวเองคิดว่าเข้ากับเสื้อเชิ้ตของชายหนุ่มใส่มือหนาทันที จากนั้นก็ตั้งใจจะเดินจากไป แต่แล้วข้อมือบางก็ถูกรวบเอาไว้เสียก่อน
“จะไปไหน”
หญิงสาวถูกดึงให้หันกลับมาเผชิญหน้ากับซาตานร้ายอีกครั้ง “ดิฉันจะรีบไปทำงานอย่างอื่นค่ะ”
“ยังก่อน เธอต้องดูแลฉัน”
วาดจันทร์หรี่ตามองคนตัวโตอย่างไม่เข้าใจ “แต่ฉันก็เลือกเนกไทให้กับคุณแล้วนี่คะ เสร็จงานของฉันแล้ว ดังนั้นฉันจะไปทำงานอื่นต่อ หรือว่าคุณต้องการให้ฉันพาไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน”
คามิเอลส่ายหน้าน้อย ๆ รอยยิ้มหยัน ๆ บนใบหน้าหล่อลากไส้ของเขาทำให้หล่อนรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ บางครั้งผู้ชายคนนี้เหมือนมีแผนการอะไรอยู่ภายในใจ แต่พอสังเกต พอจะพิจารณาให้ถี่ถ้วน หล่อนกลับไปพบสิ่งที่กำลังสงสัยเลยแม้แต่นิดเดียว
เขาไม่มีทางจำหล่อนได้ ใช่... ไม่มีทางจำได้อย่างแน่นอน ก็หล่อนในคืนนั้นกับวันนี้มันต่างกันลิบลับนี่นา ผู้หญิงชุดสีทองในค่ำคืนนั้นที่คามิเอลถูกตาต้องใจสวยงามไม่ต่างจากนางฟ้า ในขณะที่หล่อนในวันนี้ต่ำต้อย และไม่เหลือเค้าความงามเลยแม้แต่นิดเดียว เด็กกะโปโล ผู้หญิงจรจัด นี่แหละคือหล่อนในวันนี้
“เรื่องจ่ายเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนอย่างฉัน”
ยะ หล่อนรู้ว่าเขาใหญ่ เขารวย และโคตรมีเงิน วาดจันทร์คิดอย่างหมั่นไส้
“แล้วอะไรที่เป็นปัญหาสำหรับคุณล่ะคะ”
คามิเอลอมยิ้ม วูบหนึ่งวาดจันทร์เห็นความเลือดเย็นในดวงตาคมกริบของเขา แต่แค่กะพริบตามันก็จางหายไป ทำให้หล่อนคิดว่าตัวเองตาฝาดไปเองเท่านั้น
“ผูกเนกไทให้กับฉัน”
“ว่าไงนะคะ?!”
“ฉันคิดว่าเธอได้ยินคำพูดของฉันดีทุกคำ”
คนฟังหน้าแดงก่ำ พลางบิดมือออกจากการเกาะกุมทันที จากนั้นก็ถอยหลังออกห่าง มองเขาอย่างหวาดระแวงไม่ไหวใจ
